ยังโสดยังซิง เกิดมาก็เห็นของตัวเองอยู่คนเดียวจริงๆนะ ไม่เคยผ่านมือชายมาก่อน อยากจะกรี๊ดดค่ะ เพราะกังวลเรื่องตรวจภายใน มันน่ากลัวไหมมันเจ็บไหม มันจะเขินมากมั้ย ถ้าไม่ตรวจจะเป็นอะไรรึเปล่า แบบแกล้งลืมไปเลย
มาค่ะซิสสาว วันนี้เราจะมาทำความรู้จักกับการตรวจภายในกันว่ามันน่ากลัวอย่างที่คิดมั้ย จะตรวจไปทำไม ตรวจแล้วจะสามารถดูอะไรได้บ้าง
ตรวจภายใน ซิสสาวต่างคุ้นชิน เสมือนเป็น Mission ที่ผุ้หญิงทุกคนจำเป็นต้องทำเมื่อถึงช่วงวัยหนึ่ง แต่หลายคนก็ยังลังเลที่จะเข้ารับการตรวจ เพราะอาจจะรู้สึกเขินอาย หรือคิดว่าเมื่อไม่มีอาการผิดปกติใดๆ ก็ไม่จำเป็นต้องตรวจ ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว! การตรวจภายในควรตรวจทั้งเพื่อการคัดกรอง ป้องกัน และหารอยโรคจากอาการต่างๆ ซึ่งระบบสืบพันธุ์สตรีภายในบริเวณอุ้งเชิงกราน ไม่ว่าจะเป็นช่องคลอด ปากมดลูก มดลูก ท่อนำรังไข่ รังไข่ เป็นอวัยวะที่พบโรคได้บ่อย และการพบโรคเร็วก็เป็นการเพิ่มโอกาสในการรักษาให้หายขาดได้ดีกว่าการปล่อยให้โรคลุกลามจนรักษายาก
ทำไมต้องตรวจภายใน?
การตรวจภายในเป็นได้ทั้งการตรวจสุขภาพประจำปี หรือตรวจเมื่อผู้ป่วยรู้สึกว่ามีความผิดปกติและเข้ามาพบแพทย์ โดยแพทย์จะทำการซักประวัติ เพื่อประเมินอาการและวินิจฉัยว่าจำเป็นต้องตรวจภายในหรือไม่ แต่โดยทั่วไปแล้วการตรวจภายในมักจะเป็นการตรวจเพื่อ..
- ตรวจเพื่อคัดกรองความเสี่ยงมะเร็งปากมดลูก (แปปสเมียร์-Pap Smear)
- ตรวจหาการติดเชื้อในช่องคลอด เช่น การติดเชื้อรา หรือแบคทีเรีย
- ตรวจหาโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ เช่น โรคหนองในแท้ โรคหนองในเทียม โรคเริม โรคพยาธิในช่องคลอดจากการติดเชื้อ หรือโรคติดเชื้อไวรัสเอชพีวี (HPV)
- ตรวจและหาสาเหตุของภาวะเลือดออกผิดปกติจากโพรงมดลูก ตกขาวผิดปกติ เนื้องอกมดลูก เนื้องอกรังไข่ ภาวะมดลูกหย่อน อาการปวดบริเวณอุ้งเชิงกรานหรือบริเวณหลัง
- ตรวจก่อนการคุมกำเนิด เพื่อดูว่าอุปกรณ์ที่จะใช้มีความเหมาะสม เช่น การใส่ห่วงอนามัย
- ตรวจเมื่อเริ่มตั้งครรภ์ เพื่อประเมินความสมบูรณ์พร้อม หาความเสี่ยง และป้องกันโรคที่เกี่ยวข้อง
ใครบ้างที่ควรตรวจภายใน
สำหรับสตรีทุกช่วงอายุที่มีความผิดปกติเกี่ยวกับอุ้งเชิงกรานและอวัยวะสืบพันธุ์ เช่น
- มีเลือดออกผิดปกติจากช่องคลอดที่ไม่ใช่ประจำเดือน
- ปวดท้องน้อย
- ปวดประจำเดือนมากผิดปกติ
- ตกขาวผิดปกติ
- สงสัยว่ามีก้อนหรือคลำพบก้อนที่ท้องน้อย
- ช่องคลอดมีกลิ่น
- มีแผลบริเวณอวัยวะเพศ
ควรเขาพบสูตินรีแพทย์เพื่อรับการตรวจรักษา ซึ่งโดยปกติแล้วแพทย์จะทำการซักประวัติ และตรวจเบื้องต้นเพื่อประเมินว่าจำเป็นต้องตรวจภายในหรือไม่ เพราะในบางรายก็ไม่จำเป็นต้องตรวจภายใน
โดยแพทย์จะแนะนำให้ผู้หญิงที่มีอายุ 21 ปีขึ้นไป ตรวจภายในร่วมกับการตรวจมะเร็งปากมดลูก ปีละ 1 ครั้ง ยกเว้นกรณีที่มีความเสี่ยงหรือมีปัญหาสุขภาพรายบุคคล อาจจะต้องตรวจถี่ขึ้นเพื่อติดตามผลและป้องกันความเสี่ยง
การเตรียมตัวก่อนตรวจภายใน
- ไม่ควรมีเพศสัมพันธ์ หรือใช้ยารักษาภาวะช่องคลอดแห้งหรือยาเหน็บ อย่างน้อย 2 วัน หรือ 48 ชม. ก่อนรับการตรวจ
- หลีกเลี่ยงเข้ารับการตรวจในช่วงที่มีประจำเดือน โดยควรตรวจหลังจากประจำเดือนหมดสนิท หรือก่อนมีประจำเดือนรอบถัดไปประมาณ 1 สัปดาห์ ในสตรีวัยหมดประจำเดือน หรือสตรีที่ฉีดยาคุมกำเนิดจะไม่มีประจำเดือน สามารถตรวจได้เลย
- ควรปัสสาวะออกให้หมดก่อน แพทย์จะได้คลำขนาดมดลูกและปีกมดลูกให้ชัดเจน
- ไม่จำเป็นต้องงดอาหารและน้ำดื่ม
- ในการวินิจฉัยบางโรค เช่น เยื่อบุมดลูกเจริญผิดที่ อาจมีการตรวจทางทวารหนักร่วมด้วย กรณีนี้ควรถ่ายอุจจาระก่อนเข้าตรวจ
- ทำจิตใจให้สบาย ไม่ต้องกังวล ขณะทำการตรวจด้วยการสอดเครื่องมือเล็กๆ หรือการคลำของแพทย์ อาจทำให้ผู้เข้ารับการตรวจเกิดรู้สึกไม่สบายตัวหรือเจ็บเพียงเล็กน้อย แต่อาการหรือความเจ็บจะหายไปเมื่อตรวจเสร็จ
การเตรียมตัวก่อนการตรวจภายใน
ไม่จำเป็นต้องทำอะไรเป็นพิเศษเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการตรวจภายใน แต่หากคุณอยู่ในช่วงมีประจำเดือนในวันที่ทำการตรวจ แพทย์อาจแนะนำให้เปลี่ยนวันเพื่อตรวจในช่วงที่ประจำเดือนหยุดสนิท แต่หากต้องการหาความผิดปกติระหว่างมีประจำเดือน สามารถพบแพทย์โดยไม่ต้องรอให้ประจำเดือนหยุดก่อนได้เลย
ระยะเวลาที่ใช้ในการตรวจ
โดยปกติแล้วจะใช้เวลาประมาณ 10 นาที
ไม่เคยมีเพศสัมพันธ์ การตรวจจะเจ็บหรือไม่
อาจรู้สึกไม่สบายเล็กน้อย แต่ไม่ควรรู้สึกเจ็บระหว่างการตรวจ การหายใจเข้าลึก ๆ ช้า ๆ และปัสสาวะก่อนการตรวจสามารถช่วยบรรเทาความรู้สึกไม่สบาย หากรู้สึกเจ็บปวดหรือไม่สบายระหว่างการตรวจ ควรแจ้งให้แพทย์ทราบ หากกังวลเกี่ยวกับความเจ็บปวด ก่อนที่จะเริ่มการตรวจ สามารถพูดคุยกับแพทย์เพื่อรับคำแนะนำกระบวนการตรวจและแก้ไขข้อกังวลค่ะ
วิธีการตรวจภายใน
- แพทย์ตรวจดูบริเวณอวัยวะสืบพันธุ์ภายนอกว่ามีอะไรผิดปกติหรือไม่
- แพทย์จะสอดเครื่องมือที่มีลักษณะคล้ายปากเป็ดเข้าไปในช่องคลอดเบาๆ เพื่อดูความผิดปกติในช่องคลอดและปากมดลูก
- แพทย์อาจใช้เครื่องมือเข้าไปเก็บเซลล์ตัวอย่างที่ปากมดลูกเพื่อนำไปตรวจหาความผิดปกติ
- แพทย์อาจสอดนิ้วมือที่สวมถุงมือ 1-2 นิ้วเข้าไปในช่องคลอด และกดเบาๆ ที่หน้าท้องส่วนล่าง
- เปลี่ยนเสื้อผ้าหลังการตรวจเสร็จ
การเก็บตัวอย่างเซลล์ขณะตรวจภายในเพื่ออะไร
เซลล์ตัวอย่างอาจถูกเก็บเพื่อนำไปตรวจสอบหามะเร็งปากมดลูก, เชื้อไวรัส Human Papilloma virus ซึ่งเป็นไวรัสที่ก่อโรคบริเวณอวัยวะเพศและทวารหนัก เช่น มะเร็งปากมดลูก มะเร็งทวารหนัก หูดหงอนไก่ เป็นต้น และโรคติดเชื้อทางเพศสัมพันธ์อื่นๆ
ทำไมผู้หญิงควรตรวจภายใน
การตรวจภายในมีความสำคัญต่อการตรวจสุขภาพระบบสืบพันธุ์ของผู้หญิง นอกจากนี้ยังสามารถตรวจหาโรคที่อาจเป็นอันตรายถึงชีวิต เช่น มะเร็งหรือการติดเชื้อ การตรวจพบโรคในระยะแรกจะช่วยให้รักษาได้ทันท่วงที โดยเฉพาะบางโรคไม่มีอาการแสดงในระยะเริ่มแรก เช่น มะเร็งปากมดลูก ก้อนเนื้องอกในมดลูก หรือรังไข่เป็นต้น
ซิสสาวคะ ถึงเราจะยังไม่เคยมีแฟนหรือผ่านการมีเพศสัมพันธ์มาก่อน อาจจะรู้สึกกังวลเกี่ยวกับการตรวจภายในได้ แต่ต้องบอกว่า การตรวจภายใน อาจจะทำให้คุณรู้สึกไม่สบายตัวเล็กน้อย แต่ไม่ถึงขั้นเจ็บ หากมีความกังวลเรื่องความเจ็บ สามารถแจ้งคุณหมอได้ แพทย์จะประเมินตามความเหมาะสมและเลือกใช้ เครื่องมือที่เหมาะสม เพื่อทำการคัดกรองต่อไปค่ะ ไม่ต้องกังวลแต่อย่างใด เพราะการตรวจภายใน มีความจำเป็นมากกว่าที่คิด ตรวจก่อน รู้ก่อน รักษาก่อน หรือสามารถป้องกันได้ก่อนใคร รักมากนะคะ จากใจ The Herniverse