มือใหม่ตรวจภายใน ไม่ใช่อะไรที่น่ากลัว อย่างที่คิด

หากพูดถึง“การตรวจภายใน” สาว ๆ ทั้งรุ่นเก่ารุ่นใหม่ เหมือนมีคำศัพท์นี้ฝังในความทรงจำ  อย่างน้อย ๆ ต้องได้สัมผัสความรู้สึกนี้กันถ้วนทั่วทุกคนแน่นอน แต่ภาพการตรวจภายในของสาว ๆ ส่วนใหญ่ มันไม่เคยจะอภิรมย์ใจนัก เพราะในความรู้สึกของเรา การตรวจภายใน เป็นอะไรที่น่ากลัว จะเจ็บไหม จะเป็นอะไรรึเปล่า ไม่มีอาการ จะตรวจทำไม หรือมีคำถามมากมาย ที่จะหลีกเลี่ยงการตรวจภายใน อาจจะเป็นเพราะสื่อ  อาจเคยนำเสนอถึงภาพเครื่องมือ ในละครก็ดี หรือตามภาพยนต์ ที่ดูแล้วก็อดจินตนาการถึงความเจ็บไม่ได้ นี่แค่ด่านแรกของความรู้สึกนะ ด่านที่ 2 เขินหมอจังค่ะ ชีวิตนี้เกิดมายังไม่เคยมีแฟน เราจะเปิดสิ่งที่เราหวงแหนให้หมอดู โอ้โห ไม่เอาหรอก

ทั้งสองอย่างนี้คือความเชื่อที่ผิดโดยสิ้นเชิงนะคะ ในวันนี้ Herniverse อยากจะจับมือสาว ๆ ทั้งหลาย แล้วกระซิบเบา ๆ ว่า ตรวจภายใน ไม่ใช่อะไรที่น่ากลัวอย่างที่คิดเลย มิหนำซ้ำ นั่นคือสิ่งที่ควรทำอย่างยิ่ง ในวันนี้ เราจะมาทำความรู้จักกับการตรวจภายในให้มากขึ้น รวมถึง ความสำคัญของการตรวจภายในของสาว ๆ ถ้าพร้อมกันแล้ว เดี๋ยว Herniverse จะเล่าให้ฟัง

            การตรวจภายในเป็นการตรวจหาและคัดกรองความผิดปกติของมดลูก ปากมดลูก เยื่อบุโพรงมดลูก รังไข่ ท่อนำไข่ ช่องคลอด และบริเวณโดยรอบ โดยแพทย์จะสอดนิ้วที่สวมถุงมือหนึ่งหรือสองนิ้วเข้าไปในช่องคลอดและกดที่ท้องส่วนล่างด้วยมืออีกข้างหนึ่งเพื่อคลำหาก้อนเนื้อและตรวจดูขนาด รูปร่าง และตำแหน่งของมดลูกและรังไข่ และใช้อุปกรณ์ที่คล้ายปากเป็ดเข้าไปเก็บเซลล์ตัวอย่างที่ปากมดลูก ซึ่งไอ้เจ้าปากเป็ด มีหลายขนาดนะคะ คุณหมอจะประเมินก่อนว่าควรใช้ขนาดไหนให้เหมาะกับเรา เพราะฉะนั้น หายห่วงได้เลย และหลังจากใช้เครื่องมือเข้าไปตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูก

ซึ่งมะเร็งปากมดลูกเป็นหนึ่งในโรคที่ทำให้ผู้หญิงเสียชีวิตมากที่สุด การตรวจพบในระยะเริ่มแรกสามารถรักษาและป้องกันการลุกลามของโรคได้ 


นอกจากนี้ หากแพทย์ต้องการผลตรวจที่ละเอียดมากขึ้น แพทย์อาจทำการตรวจอัลตร้าซาวด์ผ่านช่องคลอด พร้อมกับการตรวจภายใน ซึ่งสามารถตรวจความผิดปกติ เช่น ก้อนเนื้อ ถุงน้ำ บริเวณมดลูกและรังไข่ได้ โดยแพทย์จะสอดหัวอัลตร้าซาวด์ผ่านเข้าไปในช่องคลอด ซึ่งอาจทำให้รู้สึกไม่สบายท้องด้านล่างเล็กน้อย แต่ไม่ต้องเป็นกังวลนะคะ ไม่ได้รู้สึกเจ็บขนาดนั้นค่ะ ซึ่งหัวตรวจจะเข้าไปใกล้ตำแหน่งมดลูกและรังไข่ ทำให้สามารถมองเห็นภาพมดลูกและรังไข่ ผ่านทางจอมอนิเตอร์ได้ชัดเจนมากขึ้น โดยปกติแล้วจะใช้เวลาประมาณ 10 นาที เท่านั้นเองค่ะ

หากสาว ๆ คนไหนกลัวเป็นพิเศษ และกังวลว่าจะเจ็บหรือไม่

การตรวจภายใน อาจรู้สึกไม่สบายเล็กน้อย แต่ไม่รู้สึกเจ็บระหว่างการตรวจ การหายใจเข้าลึก ๆ ช้า ๆ และปัสสาวะก่อนการตรวจสามารถช่วยบรรเทาความรู้สึกไม่สบายตัว หากรู้สึกเจ็บปวดหรือไม่สบายระหว่างการตรวจ ควรแจ้งให้แพทย์ทราบได้ทันทีค่ะ  หากกังวลเกี่ยวกับความเจ็บปวด ก่อนที่จะเริ่มการตรวจ สามารถพูดคุยกับแพทย์เพื่อรับคำแนะนำกระบวนการตรวจและแก้ไขข้อกังวลคุณหมอใจดีแน่นอน

ไม่เคยมีเพศสัมพันธ์จำเป็นต้องตรวจภายในไหม

ถ้าไม่เคยมีเพศสัมพันธ์ โอกาสที่จะเป็นมะเร็งปากมดลูกเกือบจะเป็นศูนย์ แต่อย่างไรก็ตามการตรวจภายในมิได้ตรวจหามะเร็งปากมดลูกเพียงอย่างเดียว แต่ยังมีการตรวจเช็ครังไข่ เยื่อบุโพรงมดลูกที่อาจเกิดความผิดปกติขึ้นได้ ดังนั้น นี่คือประโยชน์ของการตรวจภายใน

จะรู้ได้อย่างไรว่าควรตรวจเมื่อไหร่

สาว ๆ ทุกคนสามารถตรวจได้เลย ไม่ต้องรอให้มีอาการนะคะ และนี่คือข้อมูลคร่าว ๆ ที่จะเช็กได้ว่า เราถึงวัยที่จะตรวจได้หรือยัง

  1. ผู้หญิงที่มีเพศสัมพันธ์แล้ว หรือมีอายุครบ 21 ปี

  2. มีประวัติครอบครัวเป็นมะเร็งรังไข่หรือมะเร็งปากมดลูก

  3. ปวดเชิงกรานหรือปวดขณะมีเพศสัมพันธ์

  4. มีประจำเดือนผิดปกติ ตกขาวผิดปกติหรือมีเลือดออก

  5. ความกังวลเกี่ยวกับโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์

  6. อาการผิดปกติอื่น ๆ บริเวณท้องน้อย หรืออวัยวะเพศ


 

แล้วเราควรตรวจภายในบ่อยแค่ไหน

ผู้หญิงที่มีเพศสัมพันธ์แล้วควรตรวจภายในเป็นประจำทุกปี ร่วมกับการตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูก ซึ่งระยะห่างของการตรวจคัดกรองโรคมะเร็งปากมดลูก คือ 1-2 ปี ขึ้นอยู่กับวิธีที่ใช้ในการตรวจ

ประโยชน์ของการตรวจภายใน ทำไมผู้หญิงควรตรวจภายใน

การตรวจภายในมีความสำคัญต่อการตรวจสุขภาพระบบสืบพันธุ์ของผู้หญิง นอกจากนี้ยังสามารถตรวจหาโรคที่อาจเป็นอันตรายถึงชีวิต เช่น มะเร็งหรือการติดเชื้อ

การตรวจพบโรคในระยะแรกจะช่วยให้รักษาได้ทันท่วงที โดยเฉพาะบางโรคไม่มีอาการแสดงในระยะเริ่มแรก เช่น มะเร็งปากมดลูก ก้อนเนื้องอกในมดลูก หรือรังไข่เป็นต้น

ตรวจภายในครั้งแรก เริ่มต้นอย่างไรดี

เพื่อให้การตรวจภายในมีประสิทธิภาพมากที่สุด ควรเตรียมตัวก่อนตรวจภายโดยไม่เข้ารับการตรวจในช่วงมีประจำเดือน แนะนำเข้ารับการตรวจเมื่อประจำเดือนหมดสนิทประมาณ 1 สัปดาห์ หรือเข้ารับการตรวจในช่วงก่อนมีประจำเดือนรอบถัดไปประมาณ 1 สัปดาห์ เนื่องช่วงที่มีประจำเดือนจะมีโอกาสติดเชื้อได้ง่ายกว่า

นอกจากนี้ยังมีข้อควรรู้ก่อนตรวจดังนี้ค่ะ
  1. ก่อนเข้ารับการตรวจ ไม่ควรสวนล้างช่องคลอด หรือใช้ยาเหน็บทางช่องคลอดก่อนการตรวจภายใน 2 วัน
  2. หลีกเลี่ยงการมีเพศสัมพันธ์ก่อนเข้ารับการตรวจ
  3. สวมเสื้อผ้าที่ใส่สบาย แนะนำให้ใส่กระโปรง และไม่ควรนุ่งกางเกงที่รัดจนเกินไป
  4. ในกรณีมีประจำเดือน และปวดท้อง ประจำเดือนมากจนทนไม่ไหว และอยากตรวจภายในวินิจฉัย สามารถมาพบแพทย์โดยไม่ต้องรอให้ประจำเดือนหยุดก่อน
  5. สำหรับสาวๆที่มีปัญหาตกขาวสามารถตรวจได้โดยไม่ต้องพยายามชำระล้างเพื่อให้แพทย์เห็นปริมาณและตรวจหาเชื้อได้
  6. ไม่จำต้องโกนขนน้องสาว
  7. ปัสสาวะให้เรียบร้อยก่อน เพื่อจะได้ไม่รู้สึกปวดปัสสาวะขณะตรวจภายใน
  8. หากไม่เคยตรวจภายใน และยังไม่เคยมีเพศสัมพันธ์ และรู้สึกเขินอาย สามารถแจ้งพยาบาลหรือเจ้าหน้าที่เพื่อขอตรวจโดยแพทย์ผู้หญิงได้ โดยทั่วไปแล้วหากเป็นแพทย์ผู้ชายก็จะมีพยาบาลผู้ช่วยซึ่งเป็นผู้หญิงภายในห้องตรวจด้วย

ทั้งนี้จะใช้เวลาตรวจภายในประมาณ 10 นาที หลังจากแพทย์ทำการซักประวัติของคนไข้ สอบถามอาการความผิดปกติเกี่ยวกับระบบสืบพันธุ์ หากรู้สึกสงสัยสามารถสอบถามได้ทันที เพื่อความสบายใจ

สาว ๆ คะ เห็นความสำคัญของการตรวจภายในกันไปบ้างหรือยัง ว่ามีความสำคัญแค่ไหน เกิดเป็นหญิง มีหลายสิ่งที่เราต้องใส่ใจกันมาก ๆ และหนึ่งในนั้นคือการดูแลสุขภาพ และเฝ้าระวังอยู่เสมอ

และโรคภัยไข้เจ็บสำหรับผู้หญิงในสมัยนี้ ยิ่งรู้ไว รู้ทัน ยิ่งรักษาได้ก่อนและมีโอกาสหายขาดได้อย่างแน่นอนเห็นอย่างนี้แล้ว จดไว้ในเช็กลิสต์ สำหรับปีนี้ได้เลย

Share the Post:

บทความแนะนำ